เคล็ดลับการดูแลผิวหน้าหนาว อากาศจะหนาวไหมไม่รู้…แต่หนาวนี้ต้องผิวสวย!
หน้าหนาวเป็นฤดูโปรดของสาวๆ บรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก อากาศดี เย็นสบาย แต่รู้หรือไม่ว่าลมหนาวไม่ได้พัดมาแค่ความเย็นสบายเท่านั้น ยังพาเอาปัญหาผิวแห้งมาฝากสาวๆ ด้วย เมื่อผิวแห้งจะเริ่มจากรู้สึกไม่สบายผิว ตึงผิว เพราะผิวเริ่มขาดน้ำ หากไม่รีบป้องกันดูแล จะทำให้ผิวแห้งมากขึ้นจนผิวแตกลอกเป็นขุย คัน ระคายเคืองได้ วันนี้เรามีเคล็ดลับการดูแลผิวช่วงหน้าหนาวมาฝาก เตรียมดูแลให้ผิวสวยท้าลมหนาวไปด้วยกันนะคะ
สาเหตุของปัญหาผิวแห้งในหน้าหนาว
ถึงแม้ว่าหน้าหนาวบ้านเราอุณหภูมิจะไม่ค่อยเย็นเท่าไหร่ แต่ทำไมยังพบปัญหาผิวแห้ง นั่นเป็นเพราะฤดูหนาวเป็นช่วงที่อากาศแห้งที่สุด ความชื้นในอากาศต่ำลง เมื่อความชื้นของอากาศมีน้อยกว่าผิวหนัง น้ำจากผิวจึงระเหยออกมาทำให้ผิวสูญเสียน้ำและขาดความชุ่มชื้น เกิดเป็นผิวแห้งกร้าน สัญญานที่บ่งบอกว่าผิวเริ่มขาดความชุ่มชื้น ได้แก่
- รู้สึกตึงผิว โดยเฉพาะหลังจากอาบน้ำ
- ผิวไม่เรียบเนียน ดูหยาบกร้านขึ้น
- เกิดอาการคับยิบๆ ตามผิวหนัง
- ผิวหนังแตกแห้ง ตกสะเก็ด ผิวลอกเป็นขุย
เคล็ดลับผิวสวย และการดูแลผิวช่วงหน้าหนาว
1. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น หรืออาบน้ำนานเกินไป
พออากาศหนาวหลายคนจะชอบอาบน้ำหรือนอนแช่น้ำอุ่นเพราะจะรู้สึกสบายตัว แต่การอาบน้ำที่ร้อนหรืออุ่นเกินไปจะชะล้างน้ำมันที่หล่อเลี้ยงผิวออก ทำให้ความชุ่มชื้นของผิวลดลง เกิดปัญหาผิวแห้งได้ ดังนั้นเพื่อให้ผิวคงความชุ่มชื้นควรอาบน้ำที่อุณหภูมิปกติหรืออุ่นน้อยๆ และไม่ควรอาบน้ำนานเกิน 10 นาที
2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน
ควรเลือกใช้เป็นสบู่เหลว โฟม หรือครีมอาบน้ำที่อ่อนโยนต่อผิว หลีกเลี่ยงสบู่ที่มีส่วนผสมของสารเคมี ยา หรือมีฟองมากเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้น แห้งตึง งดการขัดถูหรือสครับผิวช่วงหน้าหนาว เนื่องจากเป็นการทำร้ายผิว ทำให้ผิวแห้งมากยิ่งขึ้น
3. ใช้ครีมบำรุงผิวเป็นประจำ
การชโลมครีมบำรุงลงบนผิวก็เหมือนกับการมอบความชุ่มชื้นแก่ผิว หลังจากอาบน้ำเสร็จ เช็ดตัวพอหมาดๆ ควรทาครีมบำรุงผิวภายใน 3-5 นาที จะช่วยให้ผิวเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ได้ดีที่สุด และอีกสิ่งที่สำคัญคือการเลือกครีมบำรุงผิว ช่วงหน้าหนาวที่ผิวแห้งควรเลือกเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อครีม ที่มีส่วนประกอบช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี ปลอดภัยต่อผิว ไม่เสี่ยงให้เกิดการแพ้ เช่น สารสกัดจากธรรมชาติต่างๆ หลีกเลี่ยงครีมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ สารเคมีที่เป็นอันตราย เพราะจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น ตัวอย่างสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงผิวแห้ง ได้แก่
- สารสกัดใบบัวบกเข้มข้น ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยในการสมานแผล ปกป้องผิวจากการะคายเคืองและยังช่วยต้านการอักเสบของผิวแห้งได้อีกด้วย
- สารสกัดจากว่านหางจระเข้ จะมีสารอโลเวอโรสทำหน้าที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้นหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ สามารถบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ผิวอิ่มน้ำ พร้อมทั้งช่วยในการสมานแผล ต้านการอักเสบ และช่วยลดการระคายเคืองของผิว
- วิตามิน E เป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิว มีคุณสมบัติป็นสารให้ความชุ่มชื้นหรือมอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิว และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน
- สารสกัดจากข้าวสาลี หรือ Pentavitin เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีโครงสร้างคล้ายกับสารธรรมชาติในผิวหนัง ช่วยในการกักเก็บความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ยาวนาน ช่วยไม่ให้ผิวถูกทำร้ายจากมลภาวะ และปรับสมดุลย์ให้ผิวแข็งแรงอีกด้วย
4. ทาครีมกันแดดเป็นประจำก่อนออกไปเจอแสงแดด
หน้าหนาวอาจจะมีลมเย็นสบาย ไม่ร้อน ทำให้หลายคนละเลยการทาครีมกันแดด ทั้งที่แสงแดดหน้าหนาวก็มีรังสียูวีที่สามารถทำร้ายผิวได้เหมือนฤดูร้อน ยิ่งถ้ามีผิวแห้งเสีย แสงแดดจะยิ่งทำร้ายผิวได้ลึกและรุนแรงกว่าปกติด้วย ดังนั้นก่อนออกจากบ้านควรทาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพสามารถป้องกันรังสียูวีได้ และมีค่า SPF30 PA3+ ขึ้นไป
5. สวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่ทำให้ระคายเคืองผิว
แฟชั่นหน้าหนาวส่วนมากจะปกปิดมิดชิดอยู่แล้วเพื่อป้องกันความหนาวเย็น ควรเลือกเนื้อผ้าที่ให้เนื้อสัมผัสนุ่มใส่สบาย เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าคอตตอน ที่ไม่บาดหรือระคายเคืองผิว สวมเสื้อผ้าที่ไม่รัดแน่นจนเกิดการเสียดสี เพราะอาจทำให้ผิวที่แห้งแตกเป็นแผลได้
6. ดื่มน้ำให้เพียงพอ และรับประทานอาหารบำรุงผิว
น้ำคือส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นไว้ได้ ควรดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว และรับประทานอาหารที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน ได้แก่ วิตามินต่างๆ จากผัก ผลไม้ หรือ โอเมก้า 3 จากปลา ถั่ว ที่ช่วยเติมไขมันดีให้แก่ผิว
การเตรียมดูแลผิวในช่วงหน้าหนาวสำคัญไม่แพ้การเตรียมหาเสื้อผ้าคอลเลคชั่นฤดูหนาวเลยนะคะ ลองนำเคล็ดลับดีๆ ที่ La Vitta หามาฝากไปใช้ดูแลผิว รับรองว่าหน้าหนาวนี้ถึงแม้ช่วงเวลาจะแสนสั้นหรืออาจจะไม่หนาว แต่สาวๆ มั่นใจได้เลยว่าจะมีผิวสวยนุ่มชุ่มชื้นยาวนาน ไม่มีปัญหาผิวแห้งเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ