ผิวแห้งคันภัยร้ายของคนแก่และผู้ป่วยป้องกันด้วยครีมบำรุงที่มีสารสกัดจากธรรมชาติเข้มข้น
สาเหตุผิวแห้งในผู้สูงอายุ และผู้ป่วย
1. อายุที่มากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้นผิวหนังจะมีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ น้ำในผิวหนังชั้นนอกจะลดลง ผิวหนังชั้นกำพร้าบางลง ขาดความยืดหยุ่น ต่อมเหงื่อและต่อมไขมันทำงานลดลง ส่งผลให้เกิด “ภาวะผิวแห้งในผู้สูงอายุ” จะมีลักษณะเป็นสะเก็ดแห้งเป็นขุย มีร่องแตกคล้ายเกล็ดปลา เห็นชัดบริเวณแขนขา ผิวแห้งและคันมากขึ้น
2. โรคบางชนิด โรคผิวหนังโรคขาดสารอาหารบางอย่าง เช่น กรดไขมันจำเป็น หรือโรคที่รุนแรงอย่างโรคไต โรคมะเร็งในต่อมน้ำเหลือง โรคเหล่านี้ส่งผลให้ผิวหนังแห้งคันแตกระแหงเป็นเกล็ดปลาได้
3. ยาบางชนิด ผิวแห้งอาจเกิดผลข้างเคียงจากการรับประทานยารักษาโรคบางชนิดหรือจากการทำเคมีบำบัด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาลดไขมัน กรดวิตามินเอ
4. สิ่งแวดล้อม สิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ อุณหภูมิ แสงแดดและมลภาวะ ทำให้คนแก่หรือผู้ป่วยที่จำเป็นต้องพักอยู่ในห้องแอร์ อากาศที่แห้งและเย็นจะดูดความชุ่มชื้นออกจากผิว หรือการอาบน้ำ เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นบ่อยๆ ก็ทำให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้นมีโอกาสเกิดผิวแห้งคันได้ง่าย
5. ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ การใช้ครีมทาผิวแห้งที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่เหมาะกับผู้สูงอายุและผู้ป่วย เช่น ใส่แอลกอฮอล์ น้ำหอม สีสังเคราะห์ ผสมสารเคมีที่เป็นอันตราย ผลิตภัณฑ์เหล่านี้นอกจากจะไม่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวแล้วยังก่อให้เกิดการระคายเคือง อาการแพ้ ผิวแห้งคันมากขึ้นด้วย
วิธีรับมือปัญหาผิวหนังแห้งในผู้สูงอายุและคนป่วย
1.หลีกเลี่ยงการอาบน้ำหรือเช็ดตัวบ่อย ผู้สูงอายุและผู้ป่วยส่วนมากไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความสกปรกมากมายอยู่แล้ว อาจจะอาบน้ำเพียงวันละครั้ง ใช้น้ำอุ่นพอประมาณไม่ร้อนมาก ไม่อาบนานเกินไป ไม่ขัดถูผิวรุนแรง เพราะจะเกิดความระคายเคืองต่อผิวแห้งและบอบบางได้ หรืออาจใช้สบู่ทำความสะอาดเฉพาะจุด บริเวณผิวหน้า ซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ ก้นและอวัยวะเพศเท่านั้น ตามความเหมาะสม
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสม ผิวแห้งคันควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารอันตราย มีค่าความเป็นกรดอ่อนๆ เช่น สบู่เด็ก สบู่สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระคายเคืองหรือเกิดผิวหนังอักเสบ
3. ใช้ครีมบำรุงผิวสำหรับผิวแห้งมากและอ่อนโยนต่อผิว หลังอาบน้ำหรือเช็ดทำความสะอาดร่างกายเสร็จควรทาครีมบำรุงผิวทันที และทาเป็นประจำวันละ 2-3 ครั้ง เมื่อผิวแห้งมากเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เสมือนเกราะป้องกัน ช่วยลดการสูญเสียน้ำจากผิวหนัง
4. การรับประทานอาหารและการดื่มน้ำ ควรดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น เช่น ปลาทู ปลาแซลมอน ผักโขม และผักผลไม้ที่มีวิตามินเอ ซี อี หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม อาหารแปรรูป ขนมและน้ำที่มีรสหวานเพราะจะทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้นและแห้งมากยิ่งขึ้น5. ปรึกษาแพทย์ ในกรณีที่ผู้สูงอายุและผู้ป่วยเป็นผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เริ่มมีอาการผิวหนังอักเสบติดเชื้อหรือเป็นเรื้อรัง เช่น มีแผลเป็นหนอง แนะนำให้พบแพทย์เพื่อให้ได้รับการดูแลและรักษาที่เหมาะสม
ครีมบำรุงที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุและคนป่วย
1. ครีมทาผิวสำหรับผิวแห้งมากและบอบบางนั้น ควรเลือกบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเนื้อเข้มข้นเน้นให้ความชุ่มชื้นเป็นหลักอย่างเนื้อครีมเพื่อเสริมความยืดหยุ่น และกำจัดความหยาบกร้าน ลอกเป็นขุยที่เกิดจากผิวแห้งมากได้ แต่ต้องอ่อนโยน ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทาแล้วรู้สึกสบายผิว
2. เลือกครีมบำรุงที่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากธรรมชาติเป็นหลัก อย่างสารสกัด Pentavitin จากข้าวสาลี ที่ช่วยบำรุงและปกป้องผิวจากการสูญเสียน้ำ ช่วยกักเก็บรักษาความชุ่มชื้นไว้ที่ผิว ปรับสมดุลให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี อิ่มน้ำ เนียนนุ่มยาวนาน และช่วยลดความเสี่ยงที่ผิวจะเกิดการผิวแห้งแตกได้
3. ครีมที่สามารถช่วยลดการระคายเคืองและการอักเสบของผิว เช่น ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของสารสกัดใบบัวบกเข้มข้นและสารสกัดจากว่านหางจระเข้ เพราะมีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยสมานแผล ปลอบประโลมผิว บรรเทาอาการคันจากผิวแห้ง แถมยังช่วยสังเคราะห์การสร้างเนื้อเยื่อใหม่และกระตุ้นการสร้างคลอลาเจนให้ผิวได้อีกด้วย
4. เลือกครีมบำรุงที่ปลอดภัย เพราะผิวแห้งมากระคายเคืองง่าย ควรเลือกที่มีข้อมูลส่วนประกอบชัดเจน ปราศจากสารที่เสี่ยงต่อการแพ้และระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม สีสังเคราะห์ และสารกันบูดหรือพาราเบน
อาการผิวแห้งในคนแก่และผู้ป่วยนั้นหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่การดูแลที่ดีและเลือกใช้ครีมบำรุงที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันไม่ให้อาการผิวแห้งเป็นรุนแรงมากขึ้นได้ หวังว่าเทคนิคการเลือกครีมบำรุงสำหรับผิวแห้งมากที่รวบรวมมาจะสามารถใช้เป็นข้อมูลสำหรับดูแลถนอมผิวให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วยมีผิวที่แข็งแรง เพราะสุขภาพผิวที่ดีแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยและใส่ใจของคนดูแลต่อคนที่คุณรัก