รวมเคล็ดลับ ลดเลือนริ้วรอย ผิวใสหน้าเด็กจนทายอายุไม่ถูก!
สุดยอดคำชมที่ทุกคนอยากฟังก็คือ หน้าเด็กจัง ไปทำอะไรมา! แต่การจะดูแลผิวหน้าให้เนียนใส ไร้ริ้วรอยจนหน้าเด็กกว่าวัยนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย วันนี้เราเลยรวบรวมเคล็บลับกระชากวัย
สุดยอดคำชมที่ทุกคนอยากฟังก็คือ หน้าเด็กจัง ไปทำอะไรมา! แต่การจะดูแลผิวหน้าให้เนียนใส ไร้ริ้วรอยจนหน้าเด็กกว่าวัยนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย วันนี้เราเลยรวบรวมเคล็บลับกระชากวัย ให้คุณบอกลาริ้วรอยทั้งหลายแล้วกลับมาหน้าใสจนใครก็ทายอายุไม่ถูกกันค่ะ
ก่อนจะไปถึงเคล็ดลับดีๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย สาเหตุหลักที่ทำให้เราดูแก่กว่าวัย มาดูที่มาที่ไป ต้นเหตุที่ทำให้ผิวของเราเกิดริ้วรอย ร่องลึก กันก่อนค่ะ
ริ้วรอยบนใบหน้าเกิดจากอะไร?
อายุ
อายุที่เพิ่มมากขึ้น ผิวหนังของคนเราจะบางลง หย่อนคล้อยและหยาบกร้าน เนื่องจากร่างกายผลิตคอลลาเจนใต้ชั้นผิวได้น้อยลงไปมาก ดังนั้นสาวๆ ที่อายุ 25ขึ้นไป จึงเริ่มมีริ้วรอยจางๆ มาเยือนกันแล้ว
แสงแดด
รังสียูวีจะทำลายอีลาสติน (Elastin) ในชั้นผิว ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและขาดความกระชับ นอกจากนี้ รังสียูวียังทำให้ผิวอ่อนแอ ผิวจึงเกิดริ้วรอยร่องลึกได้ง่าย
พักผ่อนไม่พอ
ช่วงเวลาที่เรานอนหลับร่างกายจะดึงสารอาหารมาซ่อมแซมและฟื้นฟูส่วนต่างๆ รวมถึงการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิว หากพักผ่อนไม่เพียงพอหรืออดนอนจะส่งผลให้ผิวไม่เต่งตึง ขาดความยืดหยุ่น ผิวแห้ง หมองโทรมและทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย
การแสดงอารมณ์
ยิ้มกว้าง หัวเราะ ขมวดคิ้ว ห่อปาก นิ่วหน้า การแสดงอารมณ์ทางสีหน้าแบบนี้เมื่อทำจนเคยชิน จะสร้างริ้วรอยบนใบหน้าให้เราแบบไม่รู้ตัว ยิ่งถ้าผิวขาดความยืดหยุ่น แห้งกร้าน ยิ่งเพิ่มโอกาสให้เกิดเป็นริ้วรอยลึกแบบถาวร
มลภาวะ
ควันพิษจากสิ่งแวดล้อมหรือควันจากบุหรี่ เต็มไปด้วยสารพิษที่ตรงเข้าไปยับยั้งการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำลายความยืดหยุ่น แถมยังทำให้ผิวของเราแห้งกร้านไม่สดใส หน้าแก่ไว ริ้วรอยมาเยือนแน่นอน
อาหาร
You are what you eat ยังคงเป็นความจริงเสมอ งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า การกินอาหารที่มีน้ำตาลสูงมีความสัมพันธ์กับการเกิดริ้วรอยและแก่ก่อนวัย ซึ่งไม่ได้เกิดแค่กับเซลล์ผิวหนังเท่านั้น ภาวะแก่ก่อนวัยยังเกิดขึ้นกับเซลล์บริเวณอวัยวะต่างๆ ในร่างกายด้วย
ความเครียด
เวลาเครียดนอกจากจะทำให้เราหน้านิ่วคิ้วขมวด ปากคว่ำจนเกิดริ้วรอยร่องแก้มแล้ว ยังทำให้ร่างกายหลั่งสาร Cortisol ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้มีฤทธิ์ ในการสลายและทำลายล้าง (Catabolic hormone) ทำให้ร่างกายเสื่อมและแก่เร็วอีกด้วย
บริเวณไหนพบริ้วรอยได้บ่อย?
ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก : ริ้วรอยบนหน้าผากและหว่างคิ้วส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากการแสดงสีหน้าต่างๆ และเมื่อเวลาผ่านไปมักจะมีร่องลึกขึ้นเรื่อยๆ
ริ้วรอยหางตา หรือ ตีนกา : ตีนกามักเป็นริ้วรอยแรกๆ ที่เราเห็น เพราะผิวหนังบริเวณรอบดวงตาบอบบางกว่าบริเวณอื่นบนใบหน้า จึงมักเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่า โดยเริ่มเป็นริ้วรอยบางๆ และตื้นๆ ก่อน แล้วจึงค่อยๆ ลึกขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป
ริ้วรอยบริเวณมุมปากและจมูก : ยิ้มเก่ง หัวเราะกว้างจะยิ่งเห็นชัด ซึ่งริ้วรอยบริเวณนี้มักจะสัมพันธ์กับการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิวและผิวที่หย่อนคล้อยจากอายุที่มากขึ้น
ริ้วรอยทั่วใบหน้า : ริ้วรอยเล็กๆ เริ่มก่อตัวตามวัยที่เพิ่มขึ้น ริ้วรอยเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะเวลาที่เราแสดงสีหน้าเท่านั้น แต่สามารถมองเห็นได้ตลอดเวลาแม้เวลาเราทำหน้าเฉยๆ การยืดหยุ่นของผิวและความหนาแน่นของผิวที่ลดลงเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดริ้วรอยเหล่านี้ ซึ่งมักกระจายอยู่ทั่วใบหน้าแต่เห็นได้ง่ายที่สุดบริเวณรอบๆ ดวงตา โดยเฉพาะบริเวณใต้ตา
เคล็ดลับลดเลือนริ้วรอย
เมื่อริ้วรอยเกิดขึ้นแล้ว อย่ามัวแต่กังวลจนเครียดเพราะจะยิ่งทำให้ริ้วรอยยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก ปัจจุบันมีสารพัดวิธีที่จะช่วยลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า ให้กลับมาเรียบเนียนดูหน้าเด็กได้อีกครั้ง ซึ่งแต่ละวิธีก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียและความเหมาะสมแตกต่างกันไป เราจึงรวบรวมมาให้ เพื่อให้สาวๆ ได้เลือกวิธีที่ใช่สำหรับตัวเองมากที่สุด
1. บำรุงผิวหน้าด้วยครีมหรือเซรั่มลดเลือนริ้วรอย
การบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอช่วยลดการเกิดริ้วรอยได้จริง แต่ถ้าริ้วรอยเกิดขึ้นแล้วควรเลือกบำรุงผิวด้วยครีมหรือเซรั่มลดเลือนริ้วรอยที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวและช่วยลดการสลายตัวของคอลลาเจน ที่โดดเด่นมีงานวิจัยรับรองทั่วโลกตอนนี้ คือสารสกัดจากใบบัวบก (Centella Asiatica : Cica) เพราะนอกจากจะลดเลือนริ้วรอยได้อย่างเห็นผลแล้ว ยังอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิวอีกด้วย
2. ปกป้องผิวจากแสงแดด
การทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน ช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เกิดขึ้นแล้วและป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ได้ด้วย เพราะรังสี UV ทำร้ายโครงสร้างของคอลลาเจนและอีลาสตินในเซลล์ผิวให้เสื่อมสภาพ ทำลายประสิทธิภาพการกักเก็บความชุ่มชื้นของสารไฮยารูลอนในชั้นผิว อีกทั้งกระตุ้นให้ผิวสร้างสารอนุมูลอิสระที่ส่งผลให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย
3. ทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก
การล้างหน้าให้สะอาดอย่างล้ำลึกจะช่วยลดปัญหาผิวต่างๆ ได้ดี เพราะหากล้างหน้าไม่สะอาด มีสิ่งตกค้างตามรูขุมขน ทาครีมบำรุงผิวหรือเซรั่มลดเลือนริ้วรอยราคาแพงแค่ไหน ก็ซึมไม่ถึงผิวชั้นในอยู่ดี
4. งดการสัมผัสผิวหน้าแรงๆ
อีกหนึ่งตัวการที่ทำให้เกิดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น ก็คือการสัมผัสกับผิวหน้าแรงๆ จึงควรล้างหน้าและทาครีมลดเลือนริ้วรอยอย่างเบามือและอ่อนโยน รวมถึงการนั่งเท้าใบหน้า หรือการนอนตะแคงหน้าแนบกับหมอนก็ทำให้เกิดริ้วรอยได้เช่นกัน
5. กินผัก ผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
ผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ มะละกอ ฯ จะอุดมไปด้วย วิตามิน ซี เอ อี เบต้าแคโรทีน และไลโคปีน นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย ร่องลึกบนใบหน้าได้อีกด้วย
6. น้ำมัน Evening Primrose (EPO)
รับประทานวันละ 3 กรัม สามารถลดความเสื่อมของผิวหนังได้ เพราะมีกรดแกมมาไลโนเลอิค ช่วยในการทำงานและโครงสร้างของผิวหนัง ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี ลดโอกาสการเกิดริ้วรอยบนผิวได้
7. กินปลาที่มีไขมันบ่อยๆ
ปลาแซลมอน ปลาเทราท์ ปลาทู ปลาซาร์ดีนและปลาชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะปลาทะเล จะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 และคอลลาเจนสูง ช่วยให้ผิวแข็งแรงและมีความยืดหยุ่น สามารถปกป้องผิวจากแสงแดดและป้องกันริ้วรอยก่อนวัยได้
8. กินถั่วเหลือง
ถั่วเหลืองมีสาร isoflavones ที่ช่วยสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนให้กับร่างกาย ช่วยให้ผิวลื่น มีความยืดหยุ่น สามารถปกป้องผิวจากแสงแดดและยังช่วยลดเลือนริ้วรอยได้
9. กินอะโวคาโด้
อะโวคาโด้เต็มไปด้วยไขมันที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งการได้รับไขมันดีที่เพียงพอจะช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่นและยืดหยุ่น ริ้วรอยเล็กๆ จะจางหายไป คนที่กินอะโวคาโด้เป็นประจำ จึงมีผิวหน้าที่อ่อนนุ่ม เนียนใส ดูเด็กกว่าวัย
10. ใช้แตงกวาฝานบางๆ หรือถุงชาที่ใช้แล้วแปะเปลือกตา
แตงกวามีวิตามินเค ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้นและกักเก็บความชุ่มชื้น ช่วยให้ริ้วรอยจางลง ส่วนถุงชามีสารแทนนินช่วยลดอาการบวมและรอบคล้ำรอบดวงตา นำมาวางบนเปลือกตาทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีเป็นประจำทุกวัน จะช่วยลดริ้วรอยและรอยหมองคล้ำรอบดวงตาได้
11. พอกหน้าด้วยสูตรธรรมชาติ
สูตรพอกหน้าธรรมชาติลดริ้วรอยนั้นมีด้วยกันหลายสูตรมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้กล้วย ข้าวโอ๊ต แตงกวา มะเขือเทศ น้ำผึ้ง หรือนมสด ซึ่งวัตถุดิบจากธรรมชาติเหล่านี้อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อผิวหน้า เมื่อนำมาพอกหน้าเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้หน้าชุ่มชื้น ฉ่ำเด้ง และลดเลือนริ้วรอยลงได้
12. ทำโยคะบริหารผิวหน้า
เคล็ดลับหน้าเด็กง่ายๆ ที่สามารถทำเองได้ทุกวันและทุกเวลา เพียงแค่ออกเสียงหรืออ้าปากในท่า “อะ อิ อุ เอะ โอะ” ค้างไว้ท่าละ 5 วินาที ทำทุกวันจะช่วยยกกระชับแก้มย้อย หน้าเหี่ยว ลดเลือนริ้วรอย ให้หน้าดูเด้งเต่งตึงขึ้น
13. กดจุดบนใบหน้า
ศาสตร์แพทย์แผนจีนโบราณที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำเหลือง โดยใช้นิ้วกลางกดลงไปตรงจุดต่างๆ ได้แก่ ตรงมุมปากทั้งสองข้าง ปีกจมูกทั้งสองข้าง ใต้ตาดำทั้งสองข้าง หางคิ้วทั้งสองข้างเหนือคิ้วทั้งสองข้างและข้างติ่งหูทั้งสองข้าง การกดจุดบริเวณเหล่านี้เป็นประจำจะช่วยให้เลือดไหลเวียนดี หน้าใส หน้าเด็กกว่าวัย แถมยังช่วยลดเลือนริ้วรอยให้จางลงอย่างได้ผล
ได้รู้เคล็ดลับในการลดเลือนริ้วรอยให้หน้าของเราเนียนใสเด้ง หน้าเด็กกว่าวัยกันไปแล้ว ใครสะดวกวิธีไหนก็ลองนำไปทำตามกันดูนะคะ แต่ขอฝากสักนิด หากจะเลือกเซรั่มหรือครีมลดเลือนริ้วรอยในการบำรุงผิวหน้า ควรหลีกเลี่ยงเซรั่มหรือครีมที่มีส่วนผสมรุนแรงที่ทำให้ผิวลอก เช่น BHA, AHA หรือกรดวิตามินเอเข้มข้น เพราะนอกจากจะเสี่ยงให้ผิวพังแล้วยังอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้อีกด้วย ควรเลือกใช้เซรั่มลดเลือนริ้วรอยที่ได้มาตรฐาน ใช้ส่วนผสมที่สกัดจากธรรมชาติและมีความปลอดภัยสูง จะดีที่สุดค่ะ