วันนี้เราจึงมีวิธีการรักษาสิวแบบไม่ทำร้ายผิวมาฝากกัน รับรองได้เลยว่า ถ้าดูแลผิวหน้าของสาวๆ ด้วย 5 ขั้นตอนนี้อย่างเคร่งครัด จะช่วยลดสิวบนผิวหน้าให้หายไปอย่างธรรมชาติ โดยไม่ต้องไปกดหรือฉีดสิวให้เจ็บตัวและเปลืองตังค์กันอีกแล้ว!

1. ทำความสะอาดผิว

เป็นขั้นตอนสำคัญที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาดในการรักษาสิว ให้คิดไว้เสมอว่าเราใช้เวลาแต่งหน้าไม่เคยต่ำกว่า 15นาที แล้วจะมาล้างหน้ารวกๆ ไม่ถึง 5นาทีมันใช่เหรอ??

• คลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอาง

ใครไม่แต่งหน้าสามารถข้ามขั้นตอนนี้ไป คลีนซิ่งที่เหมาะกับคนเป็นสิว ผิวอุดตันง่าย ควรเป็นชนิดน้ำ ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน พาราเบน แอลกอฮอล์หรือสารที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ต่างๆ และไม่ควรทำให้หน้าแสบหรือแห้งตึงหลังการใช้ ดังนั้นเลือกแบบที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติ ที่ช่วยปลอบประโลมผิว อย่าง ใบบัวบก ว่านหางจระเข้ จะช่วยลดการอักเสบของสิวได้เป็นอย่างดี

• โฟมล้างหน้า ลดสิว

ขั้นตอนที่ช่วยชะล้างสิ่งสกปรกและความมันบนผิวหน้า ที่อาจก่อให้เกิดการอุดตันจนเป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบและสิวผดได้ สำหรับคนรักษาสิว ควรเลือกใช้โฟมหรือเจลล้างหน้าที่มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติ เช่น ทรีทีออยล์ช่วยฆ่าเชื้อสิว ใบบัวบกลดการอักเสบ และมะขามป้อมลดรอยแดงจากสิว เป็นตัน นอกจากนี้หากเป็นสิวอักเสบ ควรใช้โฟมล้างหน้าที่รบกวนผิวน้อยที่สุด โดยอาจเลือกแบบขวดปั๊มโฟม เพราะจะได้เนื้อโฟมที่ละเอียด บางเบา เพื่อลดการเสียดสีระหว่างนิ้วมือกับผิวหน้า จะช่วยลดการอักเสบของสิวและรักษาสิวให้หายได้ไวยิ่งขึ้น

2. บำรุงผิว แบบลดสิว ไม่อุดตัน

หนึ่งความเชื่อผิดๆ ของคนที่กำลังรักษาสิวคือ ให้งดบำรุงผิวเพื่อไม่ให้ผิวอุดตัน ทั้งที่ความจริงคือยิ่งผิวขาดการบำรุงมากเท่าไหร่ รูขุมขนยิ่งขับน้ำมันออกมาเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นวิธีการดูแลผิวเพื่อลดสิวที่ถูกต้อง คือการบำรุงผิวให้สมดุล ด้วยการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว

ซึ่งหากเป็นสิว ไม่ว่าจะสิวอุดตัน สิวผด สิวอักเสบ ควรเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่มีเนื้อบางเบา หรืออาจเลือกเป็นเจลบำรุงผิวแทน เพื่อลดเลี่ยงปัญหาอุดตันรูขุมขนจนเกิดสิวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เจลบำรุงผิวที่ช่วยลดสิวได้ดี ควรมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยลดการอักเสบ เช่น ใบบัวบก ว่านหางจระเข้ และมีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นอย่าง ไฮยาลูรอน ที่ช่วยเก็บกักน้ำใต้ชั้นผิวไว้ได้ โดยไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ผิวสมดุลเมื่อไหร่ ความมันก็จะหายไป ลดสิว ผิวใสได้แน่นอน

3. ปกป้องผิวจากแสง UV ตัวร้าย ที่กระตุ้นการเกิดสิว

ไม่กล้าทาครีมกันแดดเพราะกลัวสิวอุดตัน แต่กลายเป็นหน้าหมองคล้ำแถมยังรักษาสิวเท่าไหร่ก็ไม่หาย สาเหตุคือรังสี UV เมื่อกระทบเข้าสู่ผิวหนังจะกระตุ้นให้ผิวหน้าเกิด “พอร์ไฟริน” หรือกระบวนการที่เชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในรูขุมขนรับรังสีอัลตราไวโอเลตจนก่อเกิดอาการอักเสบ เมื่อรูขุมขนอักเสบ ก็จะเกิดสิวอักเสบตามมา แถมความร้อนจากแสงแดดยังทำให้เกิด “สิวผด” ซึ่งหากก่อตัวรวมกับแบคทีเรียเชื้อสิว ก็จะทำให้เกิดเป็นสิวหนองหรือสิวอักเสบได้อีกด้วย ดังนั้นจะสิวเห่อแค่ไหนก็ขาดการทาครีมกันแดดไม่ได้จริงๆ

หากกังวลเรื่องสิวอุดตัน ควรเลือกครีมกันแดดที่มีเนื้อบางเบา กันน้ำ กันเหงื่อเพื่อให้คงประสิทธิภาพกันแดดได้ตลอดวันแต่สามารถล้างออกได้ง่าย ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และพาราเบนที่อาจทำให้ผิวแพ้ระคายเคือง ที่สำคัญคือต้องสามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้จริงที่ค่า SPF40 PA+++ ขึ้นไป และควรมีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติที่ช่วยลดการอักเสบอย่าง ใบบัวบก และสารสกัดจากเมล็ดองุ่นเพื่อผิวขาวใสสุขภาพดี เลือกกันแดดที่เหมาะกับผิวได้เมื่อไหร่ ก็เหมือนมีเกราะป้องกันผิว ช่วยลดสิว ให้ผิวกลับมาสวยใสเป็นธรรมชาติได้อีกครั้ง

4. Detox ผิว ลดสิวอุดตัน

เพราะการล้างหน้าในทุกๆ วัน อาจไม่สามารถชะล้างสิ่งอุดตันบนผิวหน้าออกไปได้ผมด ทั้งคราบเหงื่อ เครื่องสำอาง และมลภาวะ ซึ่งเป็นสาเหตุหลังที่ทำให้เกิดสิวและผิวหมองคล้ำไม่สดใส ดังนั้นการได้ Detox ผิวอย่างล้ำลึกด้วยการมาส์กหน้าซัก 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ จึงเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ช่วยในการรักษาสิวต่างๆ ให้ลดลงได้ ทั้งสิวผด สิวอักเสบและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิวอุดตัน

ควรเลือกมาส์กที่มีส่วนผสมจากธรรมชาตเป็นหลัก เพื่อลดโอกาสแพ้และระคายเคือง เช่น มาส์กโคลนที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุจากธรรมชาติ ช่วยดูดซับสิ่งสกปรกและความมันที่ตกข้างในรูขุมขน มีส่วนผสมของใบบัวบกช่วยลดสิวอักเสบ ทีทรีออยล์ ฆ่าเชื้อสิว ว่านหางจระเข้เพิ่มความชุ่มชื้นและมะขามป้อมช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากสิว เป็นต้น

5. ลดรอยสิว เคลียร์ผิวใส

มาถึงขั้นตอนสุดท้ายในการดูแลผิวเป็นสิวกันแล้ว ใครที่ทำมาทุกขั้นตอนอย่างเคร่งครัดและสม่ำเสมอ จะช่วยลดสิวทั้งสิวอักเสบ สิวผด สิวอุดตันที่มีให้น้อยลงได้อย่างแน่นอน ทีนี้ก็เหลือแต่เจ้ารอยสิวที่ทิ้งไว้บนผิวหน้า ทั้งรอยแดง รอยดำและหลุมสิว ผิวไม่เรียบ ซึ่งการรักษารอยสิวต่างๆ สามารถทำได้ตั้งแต่การเริ่มเกิดสิว เพราะรอยสิวนั้นเกิดจากการที่ผิวเกิดการอักเสบ จนสร้างบาดแผลบนผิวของเรา ดังนั้นยิ่งเราป้องกันให้เกิดการอักเสบของสิวได้เร็วเท่าไหร่ ก็ช่วยลดการเกิดรอยสิวได้มากขึ้นเท่านั้น

แต่หากเกิดรอยสิวขึ้นแล้ว วิธีการรักษาเพื่อลดเลือนรอยสิวได้ดีที่สุดคือ การใช้ครีมลดรอยแผลเป็น เลือกเป็นชนิดเจล เนื้อบางเบา ซึมเข้าผิวได้ง่ายเพื่อหลีกเลี่ยงการอุดตัน เน้นชนิดที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติเข้มข้น อย่างใบบัวบกซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวและลดการอักเสบได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้สารสกัดจากหัวหอมยังช่วยลดการเกิดแผลเป็นนูน และวิตามินบี3 ช่วยลดรอยดำ รอยแดงให้จางไว เคลียร์ผิวใสได้แบบไม่ต้องเสียเงินไปทำเลเซอร์ลดรอยสิวกันอีกแล้ว

ครบ 5 ขั้นตอนในการรักษาผิวหน้าให้เนียนใสไกลสิว ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติกันไปแล้ว สาวๆ คนไหนที่มีปัญหาสิวกวนใจ จะสิวอักเสบ สิวอุดตันหรือสิวผด ก็ลองนำไปใช้กันดูนะคะ รับรองได้ว่าไม่ว่าจะเป็นสิวชนิดไหนก็กลับมามีผิวสวยใสสุขภาพดีได้แน่นอนค่ะ